ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ทะลุ 27 ล้านโดสแล้ว

ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ทะลุ 27 ล้านโดสแล้ว

ข่าวภาคค่ำ – ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ทะลุ 27 ล้านคนแล้ว และในสัปดาห์หน้า โรงพยาบาลต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร จะเร่งฉีดวัคซีนไฟเซอร์

ให้เด็กและก็ราษฎรกลุ่มเสี่ยง ส่วนเข็มที่ 4 ระบบแพทย์พร้อมรายงานได้ฉีดไปแล้ว 219 คน

ความก้าวหน้าการฉีดยาวัววิด-19 ปัจจุบันไทยฉีดไปได้ 27,009,411 โดส คิดเป็น 27% ของวาระแห่งชาติ ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 100 ล้านโดส ก็ยังเหลืออีก 73% ที่จะต้องจัดการฉีดยา เพื่อสร้างภูมิต้านทานหมู่ให้ได้ 70% ของประชาชน

อัปเดตจากระบบแพทย์พร้อม ชาวไทยได้ฉีดยาวัววิด-19 เข็มแรกแล้ว 20 ล้านคน และก็ครบ 2 เข็ม มี 6 ล้านคน เข็มที่ 3 หรือ Booster Dose มี กว่า 560,000 คน และก็เข็มที่ 4 มี สะสม 219 คน

ประเด็นนี้ นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า นอกจากหมอที่ต้องไปต่างประเทศแล้ว ยังตรวจตราวัคซีนเข็มที่ 4 ไปพบว่า 79% เป็นวัคซีนสิโนฟาร์ม แล้วก็มีอีก 20% เป็นวัคซีนไฟเซอร์ ที่ได้ฉีดให้พนักงานทางการแพทย์ด่านหน้า

ระหว่างที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยโรงพยาบาลกำแพงแสน เปิดฉีดยาไฟเซอร์ให้ราษฎรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ปริมาณ 742 คน ที่นัดหมายมา ได้ฉีดยาไฟเซอร์ล็อตที่ได้รับบริจาคมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

และก็วันพรุ่งนี้ (23 เดือนสิงหาคม) ราษฎรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ระบาดหนักอย่าง กรุงเทพฯ ก็จะได้ฉีดยา ไฟเซอร์กันแล้ว อาทิ โรงพยาบาลจุฬาลงแขนณ์ สภากาชาดไทย และก็โรงพยาบาลนพรัตนราชจังหวัด เป็นต้น กลุ่มเสี่ยงก็จะมีอีกทั้งเด็ก 12 ปีขึ้นไป ที่มีโรคประจำตัว และก็หญิงมีครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป รวมถึงคนสูงอายุ

ระหว่างที่ แผนการฉีดยา ไทยร่วมใจ ของกรุงเทพฯ ปัจจุบันได้นัดหมายจัดคิวฉีดยาใหม่ ให้กับราษฎร อายุ 18-59 ปี ที่เดิมสมัครสมาชิกไว้วันที่ 16-20 สิงหาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จะได้คิวใหม่ฉีดได้วันพุธที่ 25 สิงหาคมนี้ และก็คิวฉีดเดิม 21- 25 สิงหาคม จะได้มาฉีดวันที่ 26 สิงหาคม และก็คิวฉีดเดิม 26 – 31 สิงหาคม ไปคิวใหม่ได้ฉีดวันที่ 27 สิงหาคมนี้ สถานที่ฉีดและก็เวลา เป็นไปตามนัดหมายเดิม และก็ได้ฉีดยาแอสตราเซนเนกาด้วย ส่วนหญิงมีครรภ์ Walk-in ฉีดยาได้ที่ศูนย์ฉีดยา 12 แห่งของกรุงเทพฯ ในวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้

ข้างหลังสื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่ภาพหนังสือรับรองการฉีดยาวัววิด-19 เข็มที่ 4 ของบุคคลปริศนา แม้ว่าจะมีหน่วยงานออกมาอธิบายถึงสิ่งที่มีความต้องการ ต้องฉีดให้พนักงานที่จะเดินทางไปต่างแดน แต่ชมรมองค์การคุ้มครองรัฐธรรมนูญไทย มีความเห็นว่าบางทีอาจเป็นวิถีทางให้เกิดขั้นตอนการร่วมกันทุจริตต่อหน้าต่อตาที่เพื่อพวกได้ ในขณะที่ชาวไทยแทบ 50 ล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีนวัววิด-19 เข็มแรก สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของสังคมไทย จึงจัดแจงยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนเอาผิดผู้ที่ได้รับฉีดยาเข็มที่ 4 รวมทั้งผู้ที่อนุมัติให้ฉีด และก็ประธานหน่วยงานทั้งหมดทั้งปวงที่เกี่ยวเนื่อง ฐานทุจริตต่อหน้าต่อตาที่ หรือ ทำไม่ดีต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการในวันพรุ่งนี้ (23 เดือนสิงหาคม)

ส่วนกรณี นายก อบต. แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ฉีดยาสิโนแวค เข็มที่ 3 เนื่องจากว่ากลัวภูมิต้านทานไม่ขึ้น และก็ยังรอฉีดแอสตราเซนเนกา เข็ม 4 อีก แต่เรื่องแดงเสียก่อน ข้าราชการบอกว่า นายก อบต. คนนี้ ใช้ขั้นตอนการ Walk-in เข้ามารวมกับกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยไม่แจ้งให้ทราบว่า เคยฉีดยามาก่อน เมื่อฉีดเสร็จจะนำประวัติเข้าระบบ จึงพบว่าฉีดมาแล้ว 2 เข็ม เข็มนี้เป็นเข็มที่ 3

ระหว่างที่ ข้าราชการสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ยังต้องเฝ้าระวังพิจารณาอาการ แต่พื้นฐานยังไม่เจอความผิดแปลก จึงเตือนราษฎรว่าถ้าเกิดจะปฏิบัติลักษณะนี้ต้องคิดให้ดี เพราะว่าบางทีอาจได้รับผลกระทบ พร้อมกำชับข้าราชการให้เข้มงวดตรวจตราประวัติ และก็เนื้อหาผู้ที่มาฉีดยาให้เพิ่มมากขึ้น